รื้อแล้วบ้านลอยน้ำกลางทะเล ของกลุ่ม Seasteading มั่นใจมีหลักฐานเอาผิดได้แน่นอน

รื้อแล้วบ้านลอยน้ำกลางทะเล ของกลุ่ม Seasteading มั่นใจมีหลักฐานเอาผิดได้แน่นอน

รื้อแล้วบ้านลอยน้ำกลางทะเล ของกลุ่ม Seasteading คาดลากกลับถึงฝั่งเย็นนี้ ขณะที่การดำเนินคดีมั่นใจมีหลักฐานเอาผิดได้แน่นอน เพราะเป็นความผิดสำเร็จแล้ว พร้อมตรวจสอบเส้นทางการเงินของบริษัทที่เกี่ยวข้อง ยันไม่กลัวถูกฟ้องกลับ

สำหรับความคืบหน้าการรื้อ บ้านลอยน้ำตามแนวทางของกลุ่ม Seasteading 

ซึ่งเจ้าหน้าที่จากทัพเรือภาพที่ 3 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าดำเนินการตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา เพื่อนำบ้านลอยน้ำ ซึ่งสร้างอยู่บริเวณนอกชายฝั่งจังหวัดภูเก็ต ที่บริเวณละติจูด 7 องศา 29.37 ลิปดาเหนือ ลองจิจูด 98 องศา 34.81 ลิปดาตะวันออก หรือบริเวณทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะราชาใหญ่ ห่างจากเกาะภูเก็ตไปประมาณ 14 ไมล์ทะเล หรือ ประมาณ 22 กิโลเมตร เพื่อกลับมายังท่าเทียบเรือน้ำลึกจังหวัดภูเก็ต เพื่อให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตรวจสอบและเก็บไว้เป็นหลักฐาน เนื่องจากบ้านลอยน้ำเป็นวัตถุพยานที่สำคัญในการดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำความผิด

ล่าสุดสุดเมื่อเสลาประมาณ 13.30 น. วันนี้ ( 22 เม.ย.) เจ้าหน้าที่ทหารเรือได้เข้าปฏิบัติการในการติดตั้งเครื่องมืออุปกรณ์ และเริ่มแยกในส่วนของตัวอาการและ ฐานออกจากกัน มั่นใจว่าการเคลื่อนบ้านวันนี้สามารถทำได้ประสบความสำเร็จและนำวัตถุพยานทั้ง 2 ส่วนกลับถึงฝั่งได้ในเวลาประมาณ 18.00 น.วันนี้ โดยขณะนี้สามารถรื้อตัวสิ่งก่อสร้างแปดเหลี่ยมได้แล้ว แต่ไม่สามารถนำขึ้นเรือหลวงมันในได้ เนื่องจากอาคารมีขนาดใหญ่ จึงเปลี่ยนแผนเป็นการลากเข้ามาแทน

พลเรือตรีวิธนรัชต์ คชเสนี รองผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 ทำหน้าที่ผู้บัญชาการกองเรือปฏิบัติการ กล่าวถึงการการปฏิบัติการย้ายวัตถุลอยน้ำกลับเข้าฝั่ง ว่า หลังจากเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาทางทัพเรือภาคที่ 3 ได้นำเรือหลวง 3 ลำ คือเรือหลวงศรีราชา เรือหลวงมันใน และเรือหลวงริ้นออกปฏิบัติการเพื่อย้ายสิ่งก่อสร้างบ้านลอยน้ำและฐานเหล็กของ ของกลุ่ม Seasteading เป็นเวลากว่า 5 ชั่วโมง ปรากฏว่าขณะนี้การดำเนินการดังกล่าวเริ่มเห็นผลแล้ว

ทางเจ้าหน้าที่ได้แยกตัวสิ่งก่อสร้างในส่วนที่ลอยน้ำคืออาคาร 8 เหลี่ยมออกจากฐานได้สำเร็จแล้ว ขณะที่ตัวฐานเหล็กก็ได้นำฝามาปิดและสูบน้ำเข้าเสา เพื่อให้เสาจมลงเมือเสาจมจะทำให้ตัวอาคารแปดเหลี่ยมลอยน้ำ เมื่อตัวอาคารลอยน้ำก็จะลากขึ้นมากับเรือหลวงมันใน ส่วนท่อนเหล็กก็จะใช้เรือหลวงริ้นลากเข้าฝั่ง คาดว่าจะใช้เวลาลากประมาณ 4 ชั่วโมง จะมาถึงท่าเทียบเรือน้ำลึกได้ในเวลา 19.00 น.

ส่วนการดำเนินคดี มั่นใจว่าในส่วนของเจ้าหน้าที่มีหลักฐานเพียงพอ และไม่กลัวถ้าทางเอกชนจะฟ้องกลับ เพราะตามกฎหมายประเทศไทยสามารถดำเนินการกับผู้กระทำความผิดได้อย่างแน่นอน และไม่มีใครที่จะมีสิทธิ์ไปสร้างสิ่งปลูกสร้างในเขตเศรษฐกิจจำเพาะ และเชื่อว่าจากการเอาจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้จะเป็นการป้องปรามไม่ให้รายอื่นดำเนินการด้วย เพราะทางภาครัฐจะดำเนินการตามกฎหมายขั้นเด็ดขาด ขณะที่ในส่วนของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ต้องมีการดำเนินคดีไปตามกฎหมายของแต่ละหน่วยงาน เชื่อว่าหลังจากนี้ก็จะมีการดำเนินการอย่างแน่นอน

ด้านนายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า กรณีมีมีการดำเนินการตรวจสอบบริษัทที่เกี่ยวข้องว่าเข้าข่ายนอมินิ หรือฟอกเงินหรือใหม่ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังดำเนินการในการตรวจสอบข้อมูล ซึ่งจะมีการตรวจสอบทั้งในเรื่องของเส้นทางการเงิน การจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทและอื่นๆที่เกี่ยวข้อง คาดว่าเร็วๆนี้น่าจะทราบผลการตรวจสอบ

ส่วนการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอออกหมายจับนั้นคาดว่าจะใช้เวลาไม่ได้ เพราะตอนนี้มีพยานหลักฐานที่สามารถดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำความผิดได้อย่างแน่นอน และขณะนี้ความผิดที่เกิดขึ้นถือว่าเป็นความผิดที่สำเร็จแล้ว

งงใจ! ลุงดักต่อยคนบ้าหน้าแหก ไม่รู้ไปโกรธอะไรมา ชาวเน็ตถาม สรุปใครบ้า

เพจคลิปดังเฟซบุ๊ก โพสต์คลิปวีดีโอเหตุการณ์ที่มีชายคนหนึ่งอยู่ๆก็ปรี่เข้าไปชกหน้าชายอีกคนหนึ่งในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา โดยมีข้อความระบุว่า “คนบ้าไม่รู้เรื่อง รู้ราว ไม่เป็นพิษ เป็นภัยกับใคร อาจมีคำพูดไม่เหมาะสมบ้างตามประสาคนบ้า แต่ชาวโคราชน่าจะรู้จักเขาดี ส่วนลุงเสื้อขาวที่มาทำร้ายเขา เอาของมีคมแทงไปที่หน้า ผมไม่ทราบว่าจงเกลียด จงชังอะไรเขานะครับ ถึงมาดักทำร้ายกลางที่สาธารณะแบบนี้ ไม่เกรงกลัวกฎหมายเลย หากเกิดเข้าตา ตาเขาบอดมามันจะยิ่งซ้ำเติมความพิการเขาไปอีกนะครับขอบคุณจนท. 1669 ที่มาทำแผลให้ และขอคุณน้องที่ส่งข้อมูลมาให้นะครับ”

ซึ่งขณะนี้ก็ยังไม่เป็นที่ปรากฏแน่ชัดว่าชายคนที่เข้าไปทำร้ายชายคนบ้านี้เป็นใครหรือมีเรื่องบาดหมางอะไรกัน และยังเป็นที่สงสัยของชาวเน็ตว่า ชายคนร้ายเป็นคนสติดีหรือเป็นคนบ้ากันแน่ หากเป็นคนที่มีสติดี คงจะไม่มีใครถือสาเอาโทษหรือมีเรื่องบาดหมางใจกับคนบ้าเป็นแน่

ล่าสุดเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 21 ก.พ. พ.ต.ท.ม.ล.กิติบดี ประวิตร ผวจ.กระบี่ พล.ต.ต.อังกูร คล้ายคลึง ผบก.ทท.3 พล.ต.ต.ศักดิ์ชัย ลิ้มเจริญ ผบก.ภ.จ.กระบี่ พ.อ.ชัยพิพัฒน์ รันสูงเนิน รอง ผอ.กอ.รมน.กระบี่ นายศรัทธา ทองคำ นอภ.เมืองกระบี่ นายพงษ์พันธ์ ธรรมา ปศุสัตว์ จ.กระบี่ นำคณะเข้าเยี่ยมอาการของ น้องเอ็มมี่ หนูน้อยวัย 5 ขวบชาวฟินแลนด์ เหยื่อฝูงสุนัขจรจัดหาดอ่าวนาง ที่ห้องพักชั้น 3 รพ.กระบี่นครินทร์อินเตอร์เนชั่นแนล พร้อมทั้งนำของเล่น ไปมอบให้กับน้องเอ็มมี่ เพื่อเป็นการปลอบขวัญ โดยมี นพ.สุนทร ฟองฟุ้ง รักษาการ ผอ.รพ. เป็นผู้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับอาการของหนูน้อย โดยทางทีมแพทย์ที่ดูอาการ ยืนยันว่าอาการของน้องเอ็มมี่ ปลอดภัยดีแล้ว แต่ยังต้องให้นอนดูอาการในเรื่องของการติดเชื้ออีก 2-3 วัน จึงจะอนุญาตให้ออกจาก รพ.ได้

สำหรับคอนโดดังกล่าวสร้างอยู่ในพื้นที่หมู่ 2 ต.กะรน เนื้อที่ 17 ไร่ ประมาณ 400 กว่าห้อง ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้างอาคาร 1อาคาร และส่วนที่เหลือกำลังอยู่ระหว่างการปรับพื้นที่ โดยเป็นการลงทุนของชาวต่างชาติ

credit : fadsdelaware.com miamidolphinsdailynews.com mantasdemudanzas.com lectoradosdegalego.com